ข้อความสั้นๆที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับความรัก


1. มีคนถามมาบ่อยๆว่าอยากหลุดออกจากทุกข์หรือคิดได้ไวๆ
ทำอย่างไร การให้ความรู้และธรรมทานเป็นการช่วยผู้อื่นอย่างแท้จริง
เหมือนให้ปลากิน1ตัวกินได้1มื้อ สอนวิธีจับปลาเขาหาปลากินเอง
ได้ตลอดชีวิต อานิสงฆ์ของบุญนี้ก็คือจะทำให้เราคิดอะไรได้ไว
หลุดจากทุกข์ได้เร็ว

(ยกตัวอย่าง เวลามีปัญหาจะเจอธรรมะที่ตรงปัญหาเข้ามาช่วยไวมาก
บางทีก็ในรูปแบบคนมาช่วย บางทีก็เจอจากในหนังสือ ฯลฯ)

ต่อไปไปทำบุญสังฆทาน หรือสถานสงเคราะห์ก็อย่าลืม
ติดหนังสือธรรมะดีๆที่ช่วยเขาได้ไปด้วย หรือแค่อ่านธรรมะดีๆ
แล้วรู้สึกว่าเป็นประโยชน์ นำไปบอกคนที่คิดว่าเขาจะได้ประโยช
น์ก็ถือว่าใช่แล้ว

2. ที่คิดว่าขาดความรักเพราะหวังจะได้ แต่ถ้าเข้าใจเสียใหม่
ว่าความรักคือการให้จะไม่รู้สึกขาดเลย

3. มีคนรักยังไม่แน่ว่าเราจะมีความสุข แต่มีความรักให้คนอื่น
มีคนที่เรารัก เรามีความสุขแน่

4. รักเขาในแบบที่เขาเป็น อย่าเปลี่ยนเขาให้เป็นแบบที่เรารัก
เพราะเท่ากับเรารักตัวเอง ความรักไม่มีเงื่อนไข
ถ้ามีเงื่อนไขแปลว่านั่นไม่ใช่ความรัก

5. กรรมที่เราทำส่งให้เราไปผูกใจกับคนที่จะส่งให้เราได้รับผล
เมื่อเหตุหมดใจก็คลายจากเหยื่อที่กรรมมาลวงไว้
วิธีแก้จึงต้องแก้ที่กรรมเรา

6. ของที่ไม่สมหรือเสมอกันอยู่ด้วยกันแล้ว
ก็จะเกิดความไม่พอดีให้ไม่พอใจ การจะเดินร่วมกันไปได้พร้อมๆกัน
ต้องสมกัน การจะเดินร่วมกันไปในทางที่ดีได้จะต้องสมกันในทางที่ดี
ด้วย ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา

7. ความอยากให้เขารักเราไม่ได้ทำให้เขารักเราได้
ความสุขต่างหากที่ทำให้เกิดความรัก

8. ความเข้าใจไม่ได้หมายความว่าทั้งสองคนจะต้องเข้าใจอะไร
ตรงกันทุกอย่างแต่หมายถึงความเข้าใจว่าทุกคนมีความต่าง
และพร้อมจะรับความต่างนั้น

9. เมื่อทุกการกระทำของเราออกมาจากใจอย่างแท้จริงแล้วว่า
เราให้เพื่อความปรารถนาให้เขามีสุข ให้เพื่อปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์
ใจเราก็จะพลอยเป็นสุข เพราะเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแน่นอนแล้วว่า
ไม่ได้เป็นเหตุแห่งความทุกข์ของคนที่เรารักแน่นอน
แค่นี้น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะคำว่า รัก ไม่เคยมีเงื่อนไข
ว่าจะได้ครอบครอง มีแต่คำที่เป็นสากลว่า รักคือการให้

10. คนที่รักเรา สำคัญกว่าคนที่เรารัก

11. สวยที่กายทำให้หลง สวยที่ใจต่างหากที่ทำให้รัก
สวยที่กายทำให้อยากอยู่ใกล้ สวยที่ใจต่างหากที่ทำให้อยากอยู่ร่วมชีวิต

12. เราทำดีเพื่อให้คนอื่นมีความสุข ไม่ได้ทำเพื่อเป็นคนดี

13. กรรมที่เราทำส่งผลที่ความรู้สึก ถ้าได้ให้ความสุขคนอื่นไว้
มันก็จะส่งให้เราไปรักคนที่จะให้ความสุขแก่เรา

14.    คนที่รู้จักรัก จะรู้จักวิธีสร้างรัก วิธีรักษาความรัก
และวิธีจากลาโดยไม่เสียใจเลยสักนิด คนที่รู้จักรัก
คือคนที่รู้ว่าจะรักอย่างไรโดยไม่เป็นทุกข์
นอกจากรู้ว่าควรรักอย่างไรแล้ว ก็ยังรู้ว่าควรรักใครด้วย

15. บางคนพยายามให้และทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้เขามารัก
นั่นเรียกว่ารักตัวเอง ให้แบบคาดหวังมันก็ยังมีเหตุแห่งทุกข์
คือความอยากของเราเอง ถ้ามองตัวเองออกว่าทำเพราะยังหวั
งว่าจะได้อะไรจากเขา นั่นแหละคือรักตัวเอง

16. บางคนให้เพราะอยากให้เขามีความสุขก็เพียงพอ นั่นเรียกว่ารักเขา
แล้วรักแบบพอแค่นี้แหละที่นำความสุขมาให้ทั้งผู้รับและผู้ให้

17.ความรักของคนทั่วไปคือ อยากได้ อยากครอบครองใครแปลว่ารัก
ที่ทุ่มเททุกอย่างมากมายก็เพื่ออยากให้เขามาเป็นของเรา
เวลาที่มีความทุกข์ ก็แก้ปัญหาไม่ตก เพราะมองเหตุของปัญหาไม่ถูกว่า
ที่ทุกข์น่ะมันทุกข์เพราะว่าอยากให้เขามารักเรา
ไม่ได้ทุกข์เพราะเราอยากให้ความรักเขา ก็ในเมื่อเราไม่ได้รักเขา
จะไปแก้ที่เขาทำไม มันต้องแก้ที่ตัวเราสิ

17 . ก่อนจะอยากให้ใครรักเรา เราควรตั้งคำถามกับตัวเราก่อน
ว่าเราทำตัวให้น่าที่จะรักหรือยัง

18 เราต้องทุกข์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้จักทุกข์
หาสาเหตุของมันเจอ แล้วดับได้ที่เหตุ

19. กรรมที่เราทำส่งให้เราต้องมาผูกใจกับคนที่จะให้ผลเป็นทุก
ข์หรือสุขตามที่เราทำมา บางคนเข้าใจผิดว่า กรรมที่ทำมาจะต้อง
เป็นกรรมที่ทำไว้กับคนๆนี้ หรือจากแฟนเก่า กิ๊กเก่า
แท้ที่จริงแล้วเป็นไปได้หมด มากกว่า50%เป็นกรรมที่ทำไว้กับพ่อแม่
ลองย้อนดูตนเองว่าเรามีนิสัยที่สร้างเหตุแบบที่กำลังได้รับผลไว้
กับใครมาก่อนหรือเปล่า

20. ถ้าอยากพัฒนาความรัก เราต้องพัฒนาตนเอง เพราะเราเป็นผู้สร้าง
และผู้ดูแลความรักให้เจริญเติบโต เพราะหากเราไม่รู้จักสร้างความรัก
ก็ไม่มีคนดีๆที่ไหนอยากมารัก เพราะต่อให้เรามีคนรักที่ดี
หากเราไม่รู้จักวิธีรักษาก็ไร้ค่า

21.ทุกข์ของใครปัญหาของคนนั้น

22. เราไม่ได้ดีกับใครเพราะต้องการให้เขามารักเรา
เราดีกับใครเพราะเรารักเขา นั่นแหละคือความรักและความสุขจริงๆ

23. ถ้าอยากให้ชีวิตดีขึ้นทุกวัน หมั่นถามตัวเองทุกวันว่า
วันนี้เราทำอะไรดีๆแล้วหรือยัง?

24.เราเข้มแข็งได้จากการรู้จักให้ความรัก ไม่ใช่จากการขอความรัก
ฝึกให้ทาน เสียสละ เงิน สิ่งของ ความรู้ เวลา แรงกาย
และแรงใจเพื่อคนที่อ่อนแอกว่า  ด้อยโอกาสกว่าเรา
กับตอนที่รอคอย วิงวอนอยากให้ใครสักคนหนึ่งมารักเรา
อย่างไหนสุข อย่างไหนทุกข์

25.หนึ่งในวิธีถอนพิษอกหักได้ดีข้อหนึ่งคือ การให้
สละความอยากได้ของเราที่ต้องการเขา
เพื่อความสุขของเขา(แม้ว่าจะไม่มีเราก็ตาม)

26. ความรักมันไม่ได้ทำให้ใครทุกข์หรอก
ความยึดในรัก (ยึดว่าอยากได้ความรัก) ต่างหากที่ทำให้เราทุกข์
(เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่อยากแนะนำให้เรามาศึกษาธรรมะ
เรียนรู้วิธีสอนใจไม่ให้ยึด เพื่อจะได้ไม่ทำให้ตัวเรา
และคนที่เรา(บอกว่า)รัก เป็นทุกข์ค่ะ

27. การที่คนสองคนจะเดินก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
รูปแบบของความสัมพันธ์มันต้องอยู่ในลักษณะที่ว่า
เราช่วยเขาได้ เขาก็สอนเราได้ ต่างคนต่างเรียนรู้ และแบ่งปันกันได้
มันถึงจะเดินไปกันได้พร้อมๆกัน ไม่ใช่ใครนำใครอยู่ฝ่ายเดียว

28. รักคืออยากจะให้ หลงคืออยากจะได้ และความใคร่ก็ไม่ใช่ความรัก

29. ถ้าเข้าใจผิด มันก็ไม่มีทางไปถูก เหมือนอยากไปเชียงใหม่
แต่เดินทางไปตามถนนเพชรเกษมมันก็ไม่มีทางไปถึง
ความรักก็เหมือนกัน ถ้าไม่เข้าใจ ไม่รู้จักว่าอะไรคือความรัก
หาความรักอย่างไรก็ไม่มีทางเจอ

30. บางคนเข้าใจผิดว่า ยึดใครมากแปลว่ารักคนนั้นมาก
เราทุกข์เพราะใคร ไม่ได้แปลว่าเรารักคนนั้นนะ
แท้ที่จริงมันมาจากกรรมที่เราทำให้คนอื่นทุกข์ใจไว้
อาการที่กรรมแสดงตัวคือ ส่งให้ใจเราไปยึดคนๆนั้น
แยกอาการยึดที่เป็น “ผล” ไปตามกรรมก็เรื่องหนึ่ง
(แก้ได้ด้วยวิธีเข้าใจกรรมของตนเอง)
กับความรักซึ่งเป็นความปรารถนาดีซึ่งเป็น “เหตุ” ดีๆ
ที่จะทำให้เราได้รับผลดีต่อไป อีกส่วนหนึ่งให้ออก

31. ไม่ต้องเลิกรัก แค่รักให้เป็นก็ไม่เป็๋นทุกข์แล้ว

32. คงจะดีถ้ามีใครมาให้ความสุขเรา แต่น่าจะดีมากกว่า
ถ้าเรารู้จักให้ความสุขตัวเองเป็น และยังไปให้คนอื่นได้เอง

33.การทำดีที่สม่ำเสมอ และการทำดีให้ยิ่งๆขึ้น
คือรากฐานของการมีชีวิตที่ดีอย่างมั่นคง และเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

34.เริ่มต้นชีวิตใหม่ดีๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงนิสัยเสียๆของตัวเองสักข้อ
เช่น นิสัยที่แม้แต่ตัวเองยังรำคาญตัวเองบ่อยๆ
หรือนิสัยที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเราเป็นอย่างนี้แล้วไม่มีความสุข
เพราะถ้าหากตัวเองยังรำคาญตัวเองแล้ว คนอื่นก็คงอยู่กับเราได้ยาก

35. คำพูดปลอบใจดีๆเป็นร้อยคำ ไม่เท่าลุกขึ้นมากระทำสิ่งดีๆ
เพื่อเปลี่ยนกรรม เปลี่ยนใจตนเอง

36 ถ้าคนอื่นสามารถเสกหรือช่วยให้เราหายทุกข์ได้
โดยไม่ต้องทำอะไร พ่อแม่ หรือคนที่รักเราคงจะทำสิ่งนั้นไปนานแล้ว
แต่เพราะทำไม่ได้ เพราะแต่ละคนมีกรรมเป็นของตนเอง
เราจึงต้องคิดช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากความทุกข์เหล่านี้

37.เราไม่ได้ให้ความรักเพื่อได้ความรัก เราให้ความรักเพื่อรู้จักความรัก
ถ้าอยากรู้จักความรักที่มีความสุข ก็หมั่นฝึกให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
สละความยึดถือทรัพย์ สิ่งของ เวลา ปัญญา แรงกาย แรงใจของตนเอง
เพื่อคนอื่น เพื่อคนที่มีความทุกข์ให้เขาได้รับความสุขบ่อยๆ
ใจเป็นสิ่งที่บังคับไม่ได้  แต่ฝึกได้
ถ้าอยากมีความสุขก็ต้องออกแรงทำอะไรดีๆ

38. ถ้าดีพอแล้วมันก็พอดีเอง แต่ถ้ายังดีไม่พร้อม มันก็ไม่พอไปเรื่อยๆ

39. คนที่รักเราสำคัญกว่าคนที่เรารัก

40. ความทุกข์ทำให้เห็นปัญหา
ความเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความก้าวหน้า

41.หน้าตาอาจเป็นสิ่งแรกที่คนอื่นจะเห็น
แต่ความดีเลวจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นจดจำคุณได้นานกว่า

42. เราไม่ได้ทุกข์เพราะรักเขาหรอก เราทุกข์เพราะรักตัวเอง

43. เราไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ยามเราอยู่ด้วยกันก็สุข
ยามต้องห่างกันเราก็ยังคิดถึงกันอย่างมีความสุขได้
คู่ไหนทำได้ แปลว่าเข้าใจความรัก

44. การนึกถึงสิ่งดีงามทำให้เรามีความสุข
หมั่นระลึกถึงความดีที่เราทำ และความดีที่คนอื่นทำบ่อยๆ
ไม่สำคัญว่าคุณจะหน้าตาอย่างไร เพราะสุดท้ายใครๆ
จะจดจำสิ่งที่คุณทำ

45 ความรักเป็นความสุขที่เย็นใจ ความสุขแบบเร่าร้อนไม่ใช่ความรัก

46. เราก็รักเขาในแบบของเรา เขาก็รักเราในแบบของเขา
ให้เขารักเราในแบบของเขา ไม่ใช่รักแบบที่เราตั้งกฎเกณฑ์ไว้

47 ถ้าเลือกว่ายังไงก็ต้องเป็นคนนี้ จะมีสุขหรือทุกข์ก็ต้องยอมรับให้ได้
แต่ถ้าเลือกว่าจะมีความสุขก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนนี้ เป็นใครก็ได้?
ท้ายที่สุดแล้ว รู้ไว้เถิดว่ากรรมที่เราทำ (กรรมหมายถึงการกระทำ
ที่มาจากต้นตอคือเจตนาที่มาจากใจ)เป็นตัวเลือกให้ใจเรา
ไปติดอยู่กับภาวะสุขหรือทุกข์แบบนั้นๆ ดังนั้นอย่ามุ่งว่า
จะต้องเป็นคนนั้นคนนี้ แต่ให้มุ่งสร้างกรรมดี เหตุที่ดี

48. ถ้าเรารู้สึกว่าอารมณ์ใดทนได้ยาก คนอื่นก็ทนไม่ได้เหมือนกัน
อย่าเอาอารมณ์ของเราไปใส่คนอื่น เพราะจะทำให้เขาทน
เราไม่ไหวตามไปด้วย เช่น รู้สึกหึงจนทนไม่ได้ต้องถามให้รู้เรื่อง
รู้สึกห่วงมากจนทนไม่ได้ต้องคอยโทรตาม
ความรู้สึกอยากคืออาการดิ้นรน คือความร้อน ตอนเราร้อนเราไม่รู้สึก
แต่คนที่รับอารมณ์เราเขารู้สึกได้ ไม่มีใครชอบของร้อนๆ
แนะนำให้อารมณ์เย็นก่อน จะคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น

49 บางทีไม่ใช่ว่าเขาไม่รักหรอกนะ แค่เขาไม่รักเรา ตอบสนองเรา
ได้บ่อยตามเวลาและถี่ได้ตามที่เราต้องการ
และที่จริงปัญหาก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักเราหรอก
ที่แท้แล้วปัญหาคือ เรารักตัวเอง(เลยอยากให้เขามาให้เรา ตามใจเรา)
เราลืมไปว่าเรารักเขา

50 ถ้าเรายังเป็นตัวตนแบบเดิมๆ  ชีวิตก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ถ้าเราเจอกับปัญหาเดิมๆ แก้ไขปัญหาและความทุกข์ด้วยวิธีเดิมๆ
แล้วไม่พบทางออก หรือประสบความสำเร็จเสียที
บางทีอาจเป็นเพราะว่าเราเดินผิดทาง การเปลี่ยนแปลงตนเอง
จะมีผลกระทบให้สิ่งต่างๆรอบตัวเปลี่ยนไปในทิศทางใหม่ๆ
การพบข้อด้อยของตนเอง และสามารถเปลี่ยนแปลงตนเอง
ไปในทางที่ดีเท่าไหร่ จะทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้นเท่านั้น

51 วงจร

อยากได้ความรักแต่รักไม่เป็น=>เรียกร้อง=>ไม่มีใครรักเราได้
เพราะอยู่ด้วยแล้วทุกข์=>อยากได้ความรักเพิ่มขึ้นแต่ก็รักไม่เป็น
=>เรียกร้องมากขึ้น=>ไม่มีใครรักเราได้
เพราะอยู่ด้วยแล้วทุกข์มากขึ้นๆ=>…แก้วงจรทุกข์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ด้วยการเริ่มรักให้เป็น รักตัวเราให้เป็น รักคนอื่นให้เป็น:)

52 ข้อแรก ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เขาไม่รักเรา
ปัญหามันอยู่ที่เราอยากให้คนๆนี้รักเรา
ข้อสอง ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เรารักเขา
ปัญหามันอยู่ที่เรารักตัวเองเลยทุกข์
พอรู้เข้าใจว่าปัญหาอยู่ที่เรา มันจะง่ายกว่าการที่รู้สึกว่าปัญหา
อยู่ที่คนอื่น จะได้ไม่ไปพยายามทำให้เขาเปลี่ยน
แต่หันมาเปลี่ยนตัวเอง ถึงมันจะไม่ง่าย แต่ก็มีความเป็นไปได้
และง่ายกว่ามาก และไม่เป็นการก่อกรรมเพิ่ม

53 ความรู้สึกรักคือ….เย็น สว่าง ร่าเริง สงบ อ่อนโยน
ความรู้สึกนี่แหละที่ช่วยสลายความทุกข์ในใจผู้อื่น
ความรู้สึกแบบนี้แหละคือความรักและเป็นที่มาให้ใครๆรัก

54 คนรักไม่ใช่ที่มาของความสุข การรู้จักรัก การรู้จักคิด
และกรรมของเราต่างหากที่เป็นที่มาของความสุข

55 การอ่านธรรมะและข้อคิดดีๆไม่ได้ช่วยให้เราพ้นทุกข์
หรือมีความรักที่ดี เป็นเพียงแต่การบอกวิธี ให้เราละเหตุแห่งทุกข์
สร้างเหตุแห่งสุขตามที่ต้องการ ทาน การให้ความสุขผู้อื่น
ช่วยให้ผู้อื่นมีความรักที่ดีคือการสร้างเหตุที่ดี
ศีล การเห็นจุดบกพร่องของตนเอง กรรมที่ส่งให้ทุกข์คือ
ละเหตุแห่งทุกข์(ให้ตรงจุดคือแก้จากทุกข์ที่เผชิญอยู่
ผลอย่างไรเหตุทำไว้อย่างนั้น)
การภาวนาคือสำรวจตรวจสอบฝึกตนเองให้เห็นตนเอง เข้าใจความจริง

56 เวลาที่คิดว่าอยากแนะนำให้ใครทำอะไรทำแล้วดี
มองให้เห็นความต่างระหว่างการเริ่มต้นมาจากเจตนาที่เมตตา
กับเจตนาไม่พอใจเลยพูดให้ทำนะ จุดเริ่มมันต่างกันมาก
ผลก็ต่างกันมากด้วย

57 ถ้าเรารักตัวเองเป็น ดูแลตัวเองได้ อยู่คนเดียวก็มีความสุข
มีคู่ก็ร่วมกันสุข ร่วมกันสร้างได้ ไม่มีข้อเสียที่ตรงไหน
แต่ถ้าเรารักตัวเองไม่เป็น ดูแลตนเองไม่ได้ อยู่คนเดียวก็มีทุกข์
มีคู่ก็ทำให้อีกคนมีทุกข์ เป็นภาระ ไม่มีข้อดีตรงไหน

58 ลองสังเกตดูว่าเวลาเป็นห่วงใครมันจะเป็นภาระในใจเรา
และในบางครั้งจะกลายเป็นเพิ่มทุกข์ให้อีกฝ่ายด้วย
ความเป็นห่วงลักษณะนี้จะมีหน้าตามาพร้อมกับความเครียด
ความไม่สบายใจ ความเศร้า ความโกรธ เป็นต้น แตกต่างจาก
ความปรารถนาดีที่มีความพร้อมจะช่วยแต่ใจไม่ทุกข์ ไม่แบก
ใจที่ไม่เป็นทุกข์พร้อมเผื่อแผ่ความสุขต่างหาก
ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ คิดหาทางออกให้ได้จริงๆ

59 ถ้าเราร้องไห้ยี่สิบนาที เราจะเสียเวลาไปยี่สิบนาที
เสียน้ำตาไปหอีกหนึ่งขวดแบรนด์ ถ้าเราปล่อยให้ทุกข์และคิดมาก
วันละสองชั่วโมง เราจะเสียเวลาไปเปล่าๆวันละสองชั่วโมง
ถ้าเราเอาเวลายี่สิบนาทีมาคิดดีๆว่าเราต้องปรับเปลี่ยนตัวเองที่ตรงไหน
และใช้เวลาวันละสองชั่วโมง มาลงมือทำอะไรดีๆ
เราจะมีเวลาที่มีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

60 มันสำคัญว่าใจ2คนเดินไปด้วยกัน/พร้อมกันหรือเปล่า
กายอยู่ห่างใจอยู่ใกล้ก็เหมือนอยู่ใกล้
กายอยู่ใกล้ใจอยู่ห่างก็เหมือนอยู่ห่าง

61  มันมีความต่าง…ไม่ตามใจ ไม่ได้แปลว่าต้องบังคับ
ไม่อยากให้ความหวัง ไม่ได้แปลว่าต้องตั้งใจทำให้ทุกข์
ไม่อยากทำให้ผู้อื่นทุกข์ ไม่ได้แปลว่าต้องเบีบดเบียนตัวเอง
อยากให้ผู้อื่นมีความสุข ไม่จำเป็นต้องตามใจไปเสียทุกเรื่อง
ให้อภัย ไม่ได้แปลว่าต้องยอมให้เค้าทำผิดซ้ำๆ
ไม่รัก ไม่ได้แปลว่ต้องเกลียด มันมีความต่าง…

Leave a comment